ข้อเสนอ ‘ทำฐานข้อมูลกลาง ตั้งศูนย์เฉพาะกิจ’ สงขลา  ร่วมขับเคลื่อนเมืองสร้างสรรค์ด้านอาหาร (Gastronomy)

จังหวัดสงขลา ได้รับการคัดเลือกเป็นตัวแทนประเทศไทยสมัครเข้าเป็นสมาชิกเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ขององค์การยูเนสโก ด้านอาหาร (Gastronomy) พร้อมกับ ได้รับสนับสนุนงบประมาณ 10 ล้านบาท ตามมติ ครม. เกิดเป็นแรงกระเพื่อมสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ภาคเอกชน ภาครัฐ องค์กรท้องถิ่น ภาคประชาสังคม เกิดความตระหนัก ร่วมรับรู้ ร่วมภาคภูมิใจในอัตลักษณ์ ‘เสน่ห์เมืองสองทะเลสามน้ำ’ ร่วมขับเคลื่อนภายใต้หัวใจหลัก ‘Songkhla Gastronomy for Health and Wellbeing’ 

  พี่อ่ำ นายชาญวิทูร สุขสว่างไกร นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชนสงขลา ในฐานะคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนสร้างความตระหนักรู้การเป็นเมืองสร้างสรรค์ กล่าวว่า สมาคมฯ ขับเคลื่อนภารกิจนำการท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือยกระดับชุมชนมาต่อเนื่อง ตั้งแต่ พ.ศ. 2564 ทั้งการจัดทำฐานข้อมูลภาพรวมการท่องเที่ยวชุมชน รวบรวมเมนูอาหาร 160 เมนูจาก 16 อำเภอ การเชื่อมโยงภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน การพัฒนาศักยภาพเชฟชุมชน การประกวดเมนูอาหารสะท้อนอัตลักษณ์และฐานทรัพยากร ฯลฯ 

สมาคมฯ ได้ร่วมพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวชุมชนเชิดชูอาหารพื้นถิ่น 4 เส้นทาง ครอบคลุม เขา ป่า นา เล พรุ สวน ควน คลอง ได้แก่ 1) เส้นทางหลวงปู่ทวด วัดต้นเลียบ 2) เกาะยอ หัวเขาแดง 3) ลุ่มน้ำคลองอู่ตะเภาตอนล่าง แม่ทอม คูเต่า บางเหรียง โคกเมือง บางกล่ำ และ 4) เกาะแลหนัง ฝั่งคาบสมุทรสทิงพระ เน้นตาลโตนด ส่วนฝั่งบางกล่ำ บางเหรียง โคกเมือง โดดเด่นด้วยภูมิปัญญาปิ่นโตร้อยสาย 

อย่างไรก็ตาม การขับเคลื่อนเมืองสร้างสรรค์ การท่องเที่ยวเชิงอาหาร (Gastronomy Tourism) หรือกระแส Soft Power ยังพบข้อจำกัดมากมาย ทั้งภาคราชการ ส่วนท้องถิ่น ไม่ให้ความสำคัญ ไม่ให้ความร่วมมือ ภาคประชาชนยังมองเป็นเรื่องไกลตัวและไม่เกี่ยวข้อง ซึ่งสมาคมฯ ได้นำเสนอแผนให้ทางจังหวัดสงขลาแจ้งหนังสือไปยัง อปท. ทั้งหมดเพื่อให้เกิดการรับรู้ ผลักดันให้มีการบรรจุเป็นวาระสำคัญในแผนงานของ อบต. เทศบาล สนับสนุนให้มีการอบรมความรู้ภูมิปัญญาอาหารท้องถิ่น นายอำเภอเป็นเจ้าภาพการประชุมกำนันผู้ใหญ่บ้านต้องนำวาระเข้าที่ประชุมด้วย นอกจากนี้ ทุกพื้นที่ต้องช่วยกันสร้าง action ทั้งการจัดการประกวดและสื่อสาร  

“ปัจจุบันเรื่อง Gastronomy ยังเป็นลักษณะต่างคนต่างทำ จึงเสนอให้มีการจัดทำระบบฐานข้อมูลกลางระดับจังหวัดเป็น Big data โดย อบจ. เป็นเจ้าภาพ สร้างกลไกการทำงานและประสานภาคีเครือข่ายเข้ามาร่วมทำงาน จัดตั้งเป็นกองบัญชาการเฉพาะกิจ บูรณาการทรัพยากรและบุคคล ดึงอินฟลูอินเซอร์มาร่วมสื่อสาร เพื่อร่วมกันดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามายังสงขลาบ้านเรา” พี่อ่ำ กล่าว